1.       สืบค้นจากหนังสือหรือในระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เรื่อง การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา และ หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
ตอบ
ความหมายของการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา
              สกิลเบ็ก (Skilbeck, 1984: 2) ได้ให้ความหมายของการพัฒนาหลักสูตรโรงเรียนไว้ว่า หมายถึง การวางแผน การออกแบบ การนำไปใช้และการประเมินผล การกำหนดการเรียนรู้ของนักเรียนดำเนินการโดยสถานศึกษา เน้นการตัดสินใจร่วมกันระหว่างบุคลากรภายในสถานศึกษา ไม่ใช่กำหนดจากบุคคลภายนอก
              แฮร์ริสัน (Marsh and others.1990: 48) ให้ความหมายการพัฒนาหลักสูตรโรงเรียนว่า                        1. เป็นแผนงานที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ 2. เป็นสิ่งที่นำไปปฏิบัติได้จริงและมีผลเกิดขึ้นกับบุคคลที่เกี่ยวข้องจริง 3. เป็นประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ ทั้ง 3 ข้อมีความเกี่ยวข้องกัน เพื่อให้หลักสูตรได้รับการพัฒนาให้สอดคล้องกับสภาพและความต้องการของผู้เรียนมากขึ้น
              เอ็กเกิลสตัน (Eggleston, 1980: 7) ได้ให้ความหมายการพัฒนาหลักสูตรโรงเรียนว่า เป็นการพัฒนาหลักสูตรให้มีความสอดคล้องกับสภาพและความต้องการของนักเรียนในแต่ละโรงเรียน โดยมีการวางแผนนำไปใช้ และประเมินร่วมกัน มีการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรและชุมชน เช่น บุคลากร อาคารสถานที่ วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เป็นพันธกิจร่วมกันระหว่างโรงเรียนและชุมชน ครูได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ เป็นหลักสูตรที่โรงเรียนได้รับประโยชน์ โรงเรียนเป็นผู้ทำให้เกิดสัมฤทธิ์ผลมากกว่าเป็นเพียงเจ้าของหลักสูตร
              กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ (2544:28-29) ได้กล่าวถึงการพัฒนาหลักสูตรโรงเรียนว่า คือพันธกิจหรือภาระหน้าที่ที่สถานศึกษาและชุมชนร่วมกันในการพัฒนาผู้เรียนให้เหมาะสมกับยุคสมัย โดยกำหนดเป็นวิสัยทัศน์ เป้าหมาย มาตรฐานการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้และผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง เพื่อให้ครูทุกคนนำไปออกแบบการเรียนการสอนมีการวางแผนร่วมกันทั้งสถานศึกษาเป็นหลักสูตรที่ครอบคลุมภาระงานการจัดการศึกษาทุกด้านของสถานศึกษา
              สรุป การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาในความหมายต่างๆ ดังที่กล่าวมาข้างต้นสรุปว่า การพัฒนาหลักสูตรคือ แผนประสบการณ์หรือแผนการจัดการเรียนการสอนที่เกิดจากการตัดสินใจร่วมกันระหว่างบุคลากรทั้งภายในและภายนอกของโรงเรียน เพื่อกำหนดการเรียนรู้ของนักเรียน มีการวางแผนนำไปใช้และประเมินผลร่วมกัน

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551ซึ่งหลักสูตรแบบอิงมาตรฐาน (Standards-Based Curricullum)  อาจสรุปเป็นหัวใจ ได้ดังนี้

เริ่มจากวิสัยทัศน์ :

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน  มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคน ซึ่งเป็นกำลังของชาติให้เป็นมนุษย์ที่มีความสมดุลทั้งด้านร่างกาย ความรู้  คุณธรรม  มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและเป็นพลโลก ยึดมั่นในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข   มีความรู้และทักษะพื้นฐาน รวมทั้ง เจตคติ ที่จำเป็นต่อการศึกษาต่อ  การประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวิต  โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญบนพื้นฐานความเชื่อว่า ทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ



6 มาจาก หลักการ 6 ประการ
5 มาจาก จุดหมาย 5 ประการ
5 มาจาก สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน  5 ประการ
8 มาจาก คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 8 ประการ
8 มาจาก มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด 8 กลุ่มสาระ (Strans) 67 มาตรฐานตัวบ่งชี้
3 มาจาก กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน  3 ประการ

วิสัยทัศน์

                         หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน  มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคน ซึ่งเป็นกำลังของชาติให้เป็นมนุษย์ที่มีความสมดุลทั้งด้านร่างกาย ความรู้  คุณธรรม  มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและเป็นพลโลก ยึดมั่นในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข   มีความรู้และทักษะพื้นฐาน รวมทั้ง เจตคติ ที่จำเป็นต่อการศึกษาต่อ  การประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวิต  โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญบนพื้นฐานความเชื่อว่า ทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ

หลักการมี 3 ประการดังนี้

              1.   เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อความเป็นเอกภาพของชาติ มีจุดหมายและมาตรฐานการเรียนรู้ เป็นเป้าหมายสำหรับพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติ และคุณธรรมบนพื้นฐาน ของความเป็นไทยควบคู่กับความเป็นสากล
2.  เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อปวงชน ที่ประชาชนทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาอย่างเสมอภาค และมีคุณภาพ
3.  เป็นหลักสูตรการศึกษาที่สนองการกระจายอำนาจ ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา  ให้สอดคล้องกับสภาพและความต้องการของท้องถิ่น
4. เป็นหลักสูตรการศึกษาที่มีโครงสร้างยืดหยุ่นทั้งด้านสาระการเรียนรู้ เวลาและการจัด           การเรียนรู้
5.  เป็นหลักสูตรการศึกษาที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
6.  เป็นหลักสูตรการศึกษาสำหรับการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย  ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย  สามารถเทียบโอนผลการเรียนรู้ และประสบการณ์

จุดหมาย
 มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี  มีปัญญา มีความสุข มีศักยภาพในการศึกษาต่อ และประกอบอาชีพ   ได้กำหนดเป็นจุดหมายเพื่อให้เกิดกับผู้เรียน  เมื่อจบการศึกษาขั้นพื้นฐานดังนี้
1.  มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยและปฏิบัติตนตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับถือ ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
2. มีความรู้ ความสามารถในการสื่อสาร การคิด การแก้ปัญหา   การใช้เทคโนโลยี  และมีทักษะชีวิต
3.  มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี มีสุขนิสัย และรักการออกกำลังกาย
4.  มีความรักชาติ มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก  ยึดมั่นในวิถีชีวิตและ           การปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
5.  มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย   การอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม  มีจิตสาธารณะที่มุ่งทำประโยชน์และสร้างสิ่งที่ดีงามในสังคม และอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข 

สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์

                มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ 5 ประการ ดังนี้
                 1. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร  มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคมรวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการสื่อสาร ที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อตนเองและสังคม
                 2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อย่างสร้างสรรค์  การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจเกี่ยวกับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม
                 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ              ที่เผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา และมีการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น    ต่อตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อม
                 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต   เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง  การทำงาน และการอยู่ร่วมกันในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น
                 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทำงาน  การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ถูกต้อง เหมาะสม และมีคุณธรรม

คุณลักษณะอันพึงประสงค์

มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข  ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก   ดังนี้
1.  รักชาติ  ศาสน์ กษัตริย์
2.  ซื่อสัตย์สุจริต
3.  มีวินัย
4. ใฝ่เรียนรู้
5. อยู่อย่างพอเพียง
6.  มุ่งมั่นในการทำงาน
7.  รักความเป็นไทย
8.  มีจิตสาธารณะ

มาตรฐานการเรียนรู้

                การพัฒนาผู้เรียนให้เกิดความสมดุล ต้องคำนึงถึงหลักพัฒนาการทางสมองและพหุปัญญา ได้กำหนดให้ผู้เรียนเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ดังนี้
1.      ภาษาไทย
2.    คณิตศาสตร์
3.     วิทยาศาสตร์
4.     สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
5.     สุขศึกษาและพลศึกษา
6.      ศิลปะ
7.     การงานอาชีพและเทคโนโลยี
8.     ภาษาต่างประเทศ

ในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ได้กำหนดมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายสำคัญของการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน มาตรฐานการเรียนรู้ระบุสิ่งที่ผู้เรียนพึงรู้  ปฏิบัติได้  มีคุณธรรมจริยธรรม และค่านิยม   ที่พึงประสงค์เมื่อจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน นอกจากนั้นมาตรฐานการเรียนรู้ยังเป็นกลไกสำคัญ ในการขับเคลื่อนพัฒนาการศึกษาทั้งระบบ

ตัวชี้วัด

ตัวชี้วัดระบุสิ่งที่นักเรียนพึงรู้และปฏิบัติได้ รวมทั้งคุณลักษณะของผู้เรียนในแต่ละระดับชั้น               ซึ่งสะท้อนถึงมาตรฐานการเรียนรู้ มีความเฉพาะเจาะจงและมีความเป็นรูปธรรม  นำไปใช้                                 ในการกำหนดเนื้อหา  จัดทำหน่วยการเรียนรู้ จัดการเรียนการสอน และเป็นเกณฑ์สำคัญสำหรับการวัดประเมินผลเพื่อตรวจสอบคุณภาพผู้เรียน

1. ตัวชี้วัดชั้นปี   เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนแต่ละชั้นปีในระดับการศึกษาภาคบังคับ          (ประถมศึกษาปีที่ 1 – มัธยมศึกษาปีที่ 3)         
2 . ตัวชี้วัดช่วงชั้น  เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย(มัธยมศึกษาปีที่ 4- 6)
 หลักสูตรได้มีการกำหนดรหัสกำกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด เพื่อความเข้าใจและให้สื่อสารตรงกัน ดังนี้
1.1 ป. 1/2

ป.1 /2        ตัวชี้วัดชั้นประถมศึกษาปีที่ 1  ข้อที่ 2
1 .1            สาระที่ 1  มาตรฐานข้อที่ 1  
                กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

2.2 ม.4 -6/ 3

ม.4 -6/3      ตัวชี้วัดชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย  ข้อที่ 3
2 .3            สาระที่ 2  มาตรฐานข้อที่ 2
                 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ

 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
1 .กิจกรรมแนะแนว
2.กิจกรรมนักเรียน
3. กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์

2.  ศึกษาทำความเข้าใจเพิ่มเติมจาก สุเทพ อ่วมเจริญ การพัฒนาหลักสูตร : ทฤษฎีและการปฏิบัติ การพัฒนาหลักสูตร : แบบจำลองการพัฒนาหลักสูตร
ตอบ
แบบจำลองการพัฒนาหลักสูตรของไทเลอร์
  มีอยู่ด้วยกันหลักๆ 4 ขั้นตอน คือ 1. ขั้นกำหนดจุดประสงค์ของหลักสูตร 2. ขั้นกลั่นกรองข้อมูล  3. ขั้นเลือกประสบการณ์การเรียนรู้ และ 4. ขั้นการประเมิน
1. ขั้นกำหนดจุดประสงค์ของหลักสูตร 
    เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ซึ่งได้มาจาก ผู้เรียน สังคม เนื้อหา  เช่น ข้อมูลผู้เรียน ข้อมูลสังคม ข้อมูลเนื้อหาสาระวิชา ข้อมูลที่ได้จากการสังเกตของผู้สอน การสัมภาษณ์ผู้เรียน ผู้ปกครอง ข้อมูลจาก แบบสอบถามและทดสอบของผู้เรียน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ ได้นำไป กำหนดจุดประสงค์ประสงค์ จากนั้น ต้องนำข้อมูลทางสังคมและข้อมูลจากท้องถิ่นชุมชนมาวิเคราะห์เพื่อกำหนดความจำเป็นในการพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนด้วย
2. ขั้นการกลั่นกรอง
     มีความจำเป็นที่ต้องใช้พื้นฐานทางด้านปรัชญา และจิตวิทยามาร่วมด้วย ในด้านปรัชญานั้น ผู้สอนควรนำทั้งปรัชญาทางสังคมและปรัชญาทางการศึกษา มาพิจารณาด้วย ซึ่งควรคำนึงถึงพื้นฐานความเป็นมนุษย์ในแต่ละคน ไม่มีข้อจำกัดทางเชื้อชาติ สัญชาติ หรือฐานะทางเศรษฐกิจและสังคม  การมีโอกาสในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆของสังคม การให้การสนับสนุนของการเปลี่ยนแปลงมากกว่ามุ่งการตอบความต้องการส่วนบุคล ปัญหาสำคัญต่างๆ ขึ้นอยู่กับความเชื่อ และสติปัญญา มากกว่าขึ้นกับอำนาจรัฐหรือผู้มีอำนาจ ส่วนพื้นฐานทางจิตวิทยา  ซึ่งไทเลอร์ใช้ในการกำหนดกำหนดกรอบโครงสร้างของกระบวนการเรียนรู้อีกด้วย ซึ่งความรู้ทางจิตวิทยานี้สามารถช่วยให้เรามีความคิดเห็นที่แตกต่างในจุดหมายที่เป็นไปได้ในระยะเวลาที่ยาวนาน อีกทั้งยังช่วยให้ความคิดบางอย่างบรรลุผลตามจุดประสงค์ในระยะเวลาที่มีความเป็นไปได้ที่จะบรรลุ
3. ขั้นเลือกประสบการการเรียนรู้
     หลังจากมีการกำหนดวัตถุประสงค์ การกลั่นกรองข้อมูลแล้ว ไทเลอร์ได้ให้คำแนะนำการ เลือกประสบการณ์การเรียนรู้ ซึ่งแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับสิ่งแวดล้อมรอบตัว เป็นการบูรณาการประสบการณ์ที่จะช่วยพัฒนาผู้เรียนในด้านต่างๆ เช่น ด้านการคิด ความสนใจ สังคม เป็นต้น
4. ขั้นการประเมินผล
     เป็นขั้นประเมินว่าในประสบการณ์จัดการเรียนรู้นั้น บรรลุวัตถุประสงค์หรือไม่

แบบจำลองการพัฒนาหลักสูตรของทาบา
มีอยู่ 7 ขั้นตอน ดังนี้
1.  การวิเคราะห์ความต้องการจำเป็น เป็นการวิเคราะห์ถึงความต้องการของผู้เรียน สภาพปัญหาต่างๆ กระบวนการในการเรียนรู้ เป็นต้น
2. การกำหนดวัตถุประสงค์ เมื่อเราได้ข้อมูลจากการวิเคราะห์ปัญหาต่างๆแล้ว เราก็นำมาเป็นแนวทางในการกำหนดวัตถุประสงค์
 3. การเลือกเนื้อหาสาระ ควรคำนึงถึงวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ อีกทั้ง  คำนึงถึงผู้เรียนด้วย
4. การจัดการเกี่ยวกับเนื้อหาสาระ เมื่อมีการคัดเลือกเนื้อหาสาระแล้ว ก็นำมาจัดลำดับให้เป็นระบบ
5. การเลือกประสบการณ์ในการเรียนรู้  ควรคำนึงถึงวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้และคำนึงถึงถึงความเหมาะสม
6. การจัดการเกี่ยวกับประสบการณ์การเรียนรู้  เป็นการจัดลำดับ ขั้นตอนอย่างเป็นระบบ
7. การตัดสินใจว่าจะประเมินอะไรและวิธีการประเมิน ทำให้เราทราบว่าเนื้อหารายวิชามีความเหมาะสมมากน้อยแค่ไหน การพัฒนาหลักสูตรมีประสิทธิภาพมากเพียงใด

แบบจำลองการพัฒนาหลักสูตรของเซเลอร์ อเล็กซานเดอร์ และเลวิส
ประกอบไปด้วย 4ขั้นตอน คือ
1. จุดหมาย  วัตถุประสงค์และขอบข่ายที่ต้องการพัฒนา  เริ่มจากการกำหนดจุดหมายสำคัญของหลักสูตร กำหนดวัตถุประสงค์ ที่ต้องการให้ประสบผลสำเร็จ ก่อนการกำหนดจุดหมาย วัตถุประสงค์เราจะพิจารณาจาก ตัวแปรภายนอก เช่น กฎหมาย ผลการวิจัย สมาคมวิชาชีพ แนวทางนโยบายแห่งรัฐ นอกจากนี้ควรพิจารณา พื้นฐานของหลักสูตร ได้แก่สังคม ผู้เรียน แลละความรู้
2. การออกแบบหลักสูตร ผู้ออกแบบหลักสูตรควรคำนึงถึง ธรรมชาติของวิชา รูปแบบของสถาบันทางสังคมที่สำพันธ์กับความสนใจของผู้เรียน อีกทั้งพิจารณาเลือกเนื้อหาสาระ และประสบการณ์จัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
3. การนำหลักสูตรไปใช้ หลังจากการออกแบบหลักสูตรแล้ว ผู้สอนจะมีการวางแผนและจัดทำแผนการสอน รวมทั้งสื่อ วัสดุ เทคโนโลยีต่างๆ เลือกยุทธวิธีการสอนต่างๆ นำไปใช้ในชั้นเรียน เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. การประเมินหลักสูตร เป็นขั้นที่นักวางแผนและผู้สอนร่วมกันประเมิน โดยมีวิธีที่หลากหลาย เพื่อสามารถทำให้ทราบว่าการนำหลักสูตรไปใช้ มีการสัมฤทธิ์ผลมากเพียงใด

แบบจำลองการพัฒนาหลักสูตรของวิชัย วงษ์ใหญ่
เป็นแบบจำลองการพัฒนาหลักสูตรแบบครบวงจร ซึ่งประกอบไปด้วย ระบบการร่างหลักสูตร ระบบการใช้หลักสูตร  และระบบการประเมิน ทั้งสามระบบนี้มีความสอดคล้องกัน ซึ่งในการพัฒนาหลักสูตรนั้น จะมุ่งเน้นไปทางระบบใดระบบหนึ่งไม่ได้ เพราะจะทำให้การพัฒนาหลักสูตรไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น ควรพัฒนาไปพร้อมๆกัน  มีการวางแผนให้เป็นการพัฒนาที่ครบวงจร
ขั้นตอนการพัฒนาหลักสูตรมีดังนี้
1. คณะกรรมการการพัฒนาหลักสูตรกำหนดจุดมุ่งหมาย โดยใช้ข้อมูลจากสภาพปัญหาและความต้องการของสังคม
2. ยกร่างเนื้อหาสาระ แต่ละกลุ่มประสบการณ์ โดยปรึกษาผู้เชี่ยวชาญแต่ละสาขาวิชา กำหนดผลการเรียนรุ้ จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม แผนจัดการเรียนรู้และสื่อ กิจกรรมการเรียนการสอนรายกลุ่มและรายบุคคล
3. ทดลองใช้หลักสูตรในสถานศึกษานำร่อง โดยคณะกรรมการพัฒนาหลักสูตรกำหนดไว้ ถ้ามีข้อบกพร่อง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
4. อบรมผู้สอน ผู้บริหารทุกระดับ บุคลากรทางการศึกษาให้เข้าใจหลักสูตรใหม่ เพื่อนำไปใช้ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ตรงตามวัตถุประสงค์
5. การปฏิบัติการสอน เป็นการสนับสนุนให้ผู้บริหารและผู้สอน นำหลักสูตรไปปฏิบัติเพื่อให้เกิดประโยชน์ในสถานศึกษาต่อไป

 แบบจำลอง SU Model นี้ ได้แนวคิดมาจาก สามเหลี่ยมมุมมน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร โดย มล.ปิ่นมาลากุล อธิการบดี และรักษาการคณบดีคณะศึกษาศาสตร์ได้ให้แนวนโยบายพัฒนานักศึกษาทั้ง สามด้าน คือ จริยศาสตร์ เกี่ยวกับการอบรมทางศีลธรรม  ด้านพุทธิศึกษา ให้ปัญญาความรู้ และ ด้านพลศึกษา เป็นการฝึกร่างกายให้แข็งแรง สำหรับเป้าหมายทางการศึกษา คือ การมุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนเก่ง ดี และมีความสุข ซึ่งในการพัฒนาหลักสูตร ได้ให้ความสำคัญกับทั้งสามด้าน คือ ด้านปรัชญาการศึกษา ด้านจิตวิทยา และด้านสังคม จึงนำไปสู่สามเหลี่ยมการพัฒนาหลักสูตรซึ่งเป็นหลักสูตรที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
สามเหลี่ยมแรกเป็นการวางแผนหลักสูตร การกำหนดจุดมุ่งหมายที่แน่นอน ชัดเจน เมื่อประมวลออกมาแล้ว จะได้เป็นวิสัยทัศน์ เปรียบเสมือนเข็มทิศที่จะชี้นำไปสู่จุดมุ่งหมาย
สามเหลี่ยมที่สองเป็นการออกแบบ ซึ่งจะนำจุดหมายและจุดมุ่งหมายของหลักสูตรมาสร้างกรอบในการปฎิบัติ การออกแบบหลักสูตรก็เพื่อให้มีการจัดกิจกรรมหรือประสบการณ์ที่ตอบสนองจุดหมายและจุดมุ่งหมายของหลักสูตร นั้นคือ พันธกิจ
สามเหลี่ยมรูปสาม การจัดระบบหลักสูตร เพื่อตอบสนองการวางแผนหลักสูตร ซึ่งเป็นขั้นตอนการเขียนแผนการสอนที่จะทำให้นักเรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง การจัดหลักสูตรให้มีประสิทธิภาพ รวมถึง กระบวนการบริหารที่สนับสนุนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ การนิเทศการศึกษา การนิเทศการสอน เพื่อให้ผู้เรียนเรียนรู้และบรรลุตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตร
สามเหลี่ยมรูปที่สี่ การประเมินเป็นการประเมินทั้งระบบหลักสูตร และผลการเรียนรู้ตามหลักสูตร นอกจากนี้การประเมินผู้เรียนหลังการสอน จะเป็นการช่วยพัฒนาผู้เรียนและส่งเสริมการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ รูปแบบการประเมิน เช่น การประเมินแบบรูบิค การประเมินพฤติกรรมผู้เรียนจากการสังเกตการณ์เข้ากลุ่ม การร่วมทำกิจกรรม นอกจากจะประเมินความรู้แล้วยังประเมินความสุขของผู้เรียนอีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น